รายการในหมวดเครื่องรางของขลัง

พระเครื่องคเณศร
รับสั่งจองพระใหม่และวัตถุมงคล
โทร.062 939 4462, 081 425 6328


กุมารทองบางระจันรุ่นแรก วัดดาวเรือง จ.สิงห์บุรี บูชาได้แล้ว

กุมารทองบางระจันรุ่นแรก วัดดาวเรือง จ.สิงห์บุรี บูชาได้แล้ว

กุมารทองบางระจันรุ่นแรก วัดดาวเรือง จ.สิงห์บุรี บูชาได้แล้ว

‼️เพราะศรัทธาเป็นแรงที่ทำให้เกิดปฏิหาริย์‼️
💥กุมารทอง ให้คุณอนันต์แก่ผู้เลี้ยงได้จริงหรือ⁉️ทำไมคนโบราณจึงมีความเชื่อเรื่องกุมารทอง⁉️สามารถเสกสรรบันดารสิ่งปาฏิหาริย์ได้อย่างไร?กลวิธีในการทำการใช้การเลี้ยงดูเขาทำอย่างไร⁉️ทำไมถึงมีฤทธิ์เดชมากมายนัก⁉️
🚩สำหรับการเลี้ยงกุมารทองนั้นท่านว่าก่อนอื่นต้องทำเรือนให้อยู่เสียก่อนทำเป็นรือนหลังเล็กๆมีของเด็กเล่นจัดเตรียมไว้ให้พร้อมสพพไว้สำหรับให้กุมารทองเล่นถึงเวลากินก็ให้เรียกเขามากินด้วยจัเรียกด้วยวาจาหรือระลึกเรียกด้วยจิตในใจก็ได้ตามแต่จะสะดวกตามเหตุการณ์เรียกให้เขามากินพร้อมกันแต่ตามที่เห็นๆในหมู่ผู้เลี้ยงบูชากุมารทองในทุกวันนี้เขานิยมตั้งหิ้งบูชาแยกไว้ต่างหากจากที่บูชาพระหรือบางบ้านก็ใช้หิ้งพระนั่นแหละเป็นที่บูชาแต่วางลำดับต่ำๆลงมาถึงเวลาก็จักอาหารคาวหวานมาถวายพระก็จัดเตรียมมาเซ่นสรวงกุมารด้วยแต่แยกคนละสำรับเคยถามผู้ที่เลี้ยงกุมารทองซึ่งจัดวางรวมไว้ในที่บูชาพระดังกล่าวว่าทำไมจึงได้จัดวางไว้อย่างนั้นเพราะกุมารทองนั้นจะว่าไปแล้วก็เป็นวัตถุที่จัดสร้างด้วยอำนาจฤทธิ์วิชาและคาถาอาคมโดยอัญเชิญจิตวิญญาณเข้ามาสิงสู่เพื่อให้เกิดมีฤทธิ์มีเดชขึ้นหากมาอยู่รวมกับพระจะเป็นการควรแล้วหรือกุมารทองจะไม่เสื่อมเดชหรืออย่างไรได้รับคำตอบว่าเลี้ยงไว้ให้อยู่กับพระนั่นแหละดีอยู่ใกล้พระจะไ้ด้คอยรับใช้พระได้เรียนศีลธรรมจากพระกุมารทองจะได้ไม่ซุกซนดื้อรั้นนั่นก็เป็นทัศนะคติที่จะคิดเห็นคิดอ่านกันไปของแต่ละบุคคลส่วนการใช้กุมารทองนั้นท่านว่าเป็นการใช้ทางวิญญาณไม่จำเป็นต้องพกพาเอากุมารทองติดตัวไปด้วยเพียงแต่บอกกล่าวเรียกใช้ด้วยวาจาหรือนึกเรียกหามาใช้ทางจิตก็เป็นอันใช้ได้แล้วตามตำราเก่าๆที่บันทึกไว้โดยเกจิอาจารยืผู้ชำนาญด้านกุมารทองมีไว้ว่ากุมารทองนั้นมีคุณแก่ผู้เป็นเจ้าของหลายประการสามารถเรียกใช้ให้ติดตามไปช่วยเหลือในกิจการต่างๆของเจ้าของได้ทั้งยังสามารถบอกกล่าวเตือนภัยที่จะมีมาถึงเจ้าของได้ล่วงหน้าด้วยสามารถบอกโชคลาภหรือดลบันดาลโชคลาภความร่ำรวยแก่เจ้าของเป็นองครักษ์ประจำตัวคอยปกป้องเหตุร้ายที่อาจเกิดขึ้นกับเจ้าของหรือแม้เป็นผู้ขจัดทำร้ายคู่อริศัตรูให้สิ้นสูญก็ทำได้สามารถเป็นหูเป็นตาปกป้องทรัพย์สินดูแลความสงบเรียบร้อยในบ้านปกป้องเมือนเป็นยามรักษาความปลอดภัยในเคคหสถานได้เป็นอย่างดีแต่อย่างไรก็ตามการเลี้ยงกุมารทองนี้ท่านว่ามีคุณต่อผู้เป็นเจ้าของอย่างมากมายนักก็ตามแต่ก็ไม่ต่างจากการเลี้ยงคนที่มีฤทธิ์มีเดชซึ่งยังมีอารมณ์รักอารมณ์ชังอยู่อย่างเต็มเปี่ยมเป็นแต่อยู่ร่วมกันโดยไม่เห็นตัวตนเท่านั้นการเลี้ยงควรเลี้ยงด้วยความระมัดระวังไว้บ้างครับมิฉะนั้นกุมารทองก็อาจพยศบันดาลผลร้ายด้วยฤทธิ์แห่งกุมารทองในบางสิ่งบางอย่างให้แก่เจ้าของได้เช่นกัน
🚩สืบพระเวทย์บ้านบางระจัน กุมารบางระจัน รุ่นแรก (หลวงปู่แป๋ว) วัดดาวเรือง ท่านสร้างไว้ให้เป็น “กุมารเหนือกุมาร” อุดผงพรายกุมารหลวงปู่ทิมวัดระหารไร่ ตั้งใจให้เป็นของคู่แผ่นดิน หลวงปู่ชวนเทพเจ้าแห่งโพธิ์ทอง หลานแท้ๆและสืบพุทธาคมหลวงพ่อแช่มวัดตาก้อง เอ่ยปากชมเปาะ สวยงามครบเครื่อง ถูกต้องตามโบราณ ขนาดเสกแม่ชีแม่ขาวในพระอุโบสถเห็นเป็นตัวเป็นตน เสร็จพิธีหลวงพ่อเอิบ ศิษย์พุทธาคมหลวงปู่ผินะวัดสนมลาว ปรมาจารย์กุมารขี่ชะมดอันลือลั่นขอบูชากุมารขี่วัวธนูไปเฝ้ากุฏิ และขอบูชาเศียรครูที่งดงามด้วยพุทธศิลป์ไปสองเศียร
การสร้างกุมารตั้งแต่สมัยโบราณมีหลายประเภท ในปัจจุบันเป็นกุมารที่ใช้ในเรื่องการค้าขายเป็นส่วนมาก แต่การสร้างกุมารที่มีตัวมีตนใช้รบทัพจับศึกแบบการรบสมัยโบราณนั้นหาผู้สร้างได้ยากยิ่งเนื่องจากผู้เลี้ยงต้องมีวิชาอาคมสูงมีพลังจิตเข้มขลังมาก ใช้ในการสู้รบ ใช้ไปฆ่าศัตรูหรือที่เรียกกันว่า กุมารเพชรมั่น กุมารเพชรคง กุมารเพชรกลับ เป็นกุมารที่โหดร้าย อำมหิต เป็น“กุมารเหนือกุมาร” ซึ่งในปัจจุบันแทบจะไม่มีให้เห็นนอกจากผู้เรียนไสยเวทย์มนต์ดำแถบชายแดนเขมร ปัจจุบันการสร้างกุมารเป็นเพียงการใช้มวลสารอาถรรพ์มาทำเป็นตุ๊กตาดินปั้นแล้วเสกด้วยการตั้งธาตุหนุนธาตุให้เกิดอาการ 32 มีอานุภาพด้านเมตตามหานิยม ซึ่งนิยมทำในปัจจุบัน กุมารนักรบตามตำรับบ้านบางระจันตามตำราโบราณนั้น มีวิธีการสร้างและทรงฤทธิ์เฉกเช่น “กุมารเหนือกุมาร” ที่ขุนแผนใช้รณรงค์สงคราม หลวงปู่แป๋ว วัดดาวเรือง พื้นเพท่านเป็นลูกหลานบ้านบางระจันโดยกำเนิดท่านจึงมีดำริในการจัดสร้าง”กุมารเหนือกุมาร”ที่มีตัวมีตนขึ้นเพื่อให้ลูกศิษย์ใกล้ชิดได้ไว้ใช้ โดยเน้นในด้านเมตตา เกื้อกูลเป็นหลัก โดยการจัดสร้างจะใช้ชนวนอาถรรพ์มากมายเช่น ดินเจ็ดป่าช้า ผงเก้าโกศหลวงพ่อชื่นวัดตาอี และหลวงพ่อกอยวัดเขาดินใต้ เหล็กยอดฉัตร เหล็กสังฆวานรจากยอดฉัตรพระพุทธบาทและบรมธาตุเจดีย์ ดินเจ็ดทุ่ง เจ็ดท่าน้ำ ดินใจกลางพระนครทั้งเก้า ผงตายวันเสาร์เผาวันอังคาร ผงอิทธิเจ ผงเสน่ห์จันทร์ขาวเสน่ห์จันแดง เถ้ากระดูกอาถรรพ์ต่างๆ และที่สำคัญที่สุดคือผสมผงพรายกุมารหลวงปู่ทิมวัดละหารไร่และชนวนมวลสารจากการสร้างเหรียญนักรบเมืองสิงห์ “รุ่นเสือดำ จงอางศึก” รุ่นแรกที่สร้างขึ้นโดย หลวงปู่พระครูอินทคณานุสิชชณ์ (หลวงปู่เจ๊ก) วัดระนาม สิงห์บุรี พระเกจิอาวุโส เรืองวิทยาคมแห่งสิงห์บุรีในอดีตและชนวนรูปหล่อหลวงปู่โต๊ะ วัดกำแพง พระคณาจารย์อาวุโสที่เรืองนามด้านนิรันตรายที่มรณภาพไปเกือบศตวรรษฯลฯ มาเป็นมวลสารผสมชนวนในการหล่อขึ้นรูปกุมารโลหะ 
ในส่วนของวัวธนูมหากาฬ (วัวธนูทองแดง) ที่นำมาประกอบเป็นกุมารขี่วัวนั้นเป็นการสร้างวัวธนูมหากาฬ ในตำราโบราณ กล่าวไว้ว่าเป็นวิชาป้องกันตัว และใช้ปกป้องบ้านเมืองของนักรบสมัยก่อน หรือแม้กระทั่งการใช้วัวธนูมหากาฬนี้ไปฆ่าศัตรู วิชาเหล่านี้เป็นการทำหุ่นพยนต์รูปแบบหนึ่ง หุ่นพยนต์สามารถทำได้ทั้งรูปคนและสัตว์ ที่นิยมมีทั้งวัวธนูและควายธนู สามารถสร้างได้หลายวิธี เช่น สานจากไม้ไผ่ ปั้นด้วยดินผสมมวลสาร ปั้นจากขี้ผึ้ง ไปจนถึงหล่อขึ้นด้วยโลหะอาถรรพ์ เช่น ตะปูโลงศพเจ็ดป่าช้า ,เหล็กขนันผีพราย ,เหล็กยอดเจดีย์ เหล็กสังฆวานร เป็นต้น เอามาหลอมรวมกันหล่อเป็นรูปควายบ้าง วัวบ้าง บางสำนักใช้โครงเป็นไม้ไผ่แล้วพอกด้วยครั่งที่ได้จากต้นพุทรา เมื่อทำสำเร็จแล้วต้องปลุกเสกตามพิธีกรรม แล้วเลี้ยงไว้ให้ดี หาหญ้าและน้ำเลี้ยงเสมอ สามารถใช้ให้เฝ้าบ้านหรือไร่นา ใช้งานได้ตามความประสงค์ ทั้งป้องกันภูตผีและโจรผู้ร้าย
การทำธนูมือหรือการลงวิชายันต์ธนูที่ตัววัวเพื่อให้อานุภาพในการต่อสู้ศัตรูเป็นไปอย่างเข้มขลังได้ใช้ตามตำรับหลวงพ่อกวย วัดโฆษิตตารามที่ท่านสักฝากวิชาเอาไว้ที่มือหลวงปู่แป๋วผู้เป็นศิษย์ ได้นำมาประยุกต์ใช้ในการสร้างวัวธนูมหากาฬ แต่จะแรงมากก็คือการปราบปรามของอัปมงคลที่บุกรุก และยังใช้ทำน้ำมนต์ประพรมสิ่งของขายดีต่างๆ วัวธนูมหากาฬ นี้สร้างจากเหล็กนพสูรย์ยอดฉัตรที่ได้ครั้งบูรณปฏิสังขรณ์พระบรมธาตุเจดีย์ และยอดพระพุทธบาท สายฟ้าปัก กลางปราสาท ตามตำราโบราณบ้านบางระจันกล่าวว่า ทรงฤทธิ์ เทพประทานจากฟ้า เป็น“วัวธนูอาถรรพณ์” หรือเรียกว่า “วัวธนูแก้วสารพัดนึก” เบื้องบนมอบให้ ใช้ไล่ ต่อสู้ ป้องกันศัตรู คุ้มครองบ้านเรือน ค้ำคูณตน ให้ผลทางเพิ่มความ เจริญรุ่งเรืองในลาภผล หรือเรียกว่า ครอบจักรวาลก็ได้ 
วัตถุอาถรรพณ์ที่นำมาสร้าง อาทิเช่น เนื้อชนวนโลหะอาถรรพณ์และชนวนมวลสารทั่วประเทศที่นำมาสร้างวัตถุมงคลรุ่นคู่แผ่นดิน(เคยได้กล่าวไว้ในประวัติการสร้างวัตถุมงคลรุ่นคู่แผ่นดิน) ทองแดงเถื่อน,เหล็กยอดเจดีย์ของวัดเขมรโบราณ,ดีบุก,กระสุนปืนด้าน,ดาบ,หอก,ปืน,กริชสมัยโบราณ,ทองขวานฟ้าเหล็กขนันผี,เงินปากผี และแผ่นยันต์ตามตำราอีกมากมาย ชนวนขวานฟ้า หลวงปู่สมหมาย อนาลโย ศิษย์สายหลวงปู่มั่นที่นำแผ่นจารครูบาอาจารย์๘๐รูปพระกริ่ง๘๐รุ่นกำไรสำฤทธิ์โบราณจำนวน๒เส้น(อายุไม่ต่ำกว่า๗๐๐ปี)ส้น(อายุไม่ต่ำกว่า๗๐๐ปี) ตะกั่วขอมโบราณที่ได้รับจากหลวงปู่กาหลงฐานพระพุทธรูปสมัยสุโขทัยวัตถุมงคลรุ่นต่างๆของครูบาอาจารย์ชนวนเหรียญขวานฟ้าหลวงปู่หลุย,หลวงปู่ชอบหลวงปู่ศรีจันทร์หลวงปู่เหรียญหลวงปู่ท่อนชนวนปรกเศรษฐีวัดเจดีย์หลวงเนื้อขวานฟ้า(หลวงตามหาบัวเสก)รูปหล่อเมตตาบารมี หลวงตามหาบัวและเหรียญตัดชิดขวานฟ้า+รูปหล่อ๘รอบขวานฟ้า และชิ้นส่วนที่เหลือของหลวงปู่พวง และยังมีมวลสารมงคลอีกมาก ปรอกกระสุนปืน ที่ครูบาอาจารย์ปลุกเสกให้จำนวน ๑๐๘ ครูบาอาจารย์(เริ่มเสกมาตั้งแต่ปี ๔๕ถึงปัจจุบัน ปรอกกระสุนปืนที่หลวงปู่หลอด ปโมทิโต ผู้ที่ได้รับการขนานนามว่า “อรหันต์กลางกรุง”เสกให้ ปี๔๗ ปรอกกระสุนปืนที่หลวงปู่โส กัสสโปเสกไตรมาสให้เมื่อปี๔๖เหตุผลที่ใช้ปรอกกระสุนปืน เพราะหลวงปู่หลอดท่านเคยกล่าวว่า "ใช้ปรอกกระสุนปืนสร้างพระนั้นดีมันเป็นเคล็ดแม่ไม่ฆ่าลูก ทำพระไว้แขวน ยิ่งบ่ออก" ดังนั้นจึงเป็นเคล็ดให้การสร้างวัวธนูไม่กลับไปทำร้ายเจ้าของนั่นเอง เมื่อนำโลหะทั้งหมดนี้มาทำพิธีหล่อหลอมรวมกันเป็นแผ่นยันต์ที่ลงอักขระเลขยันต์มาเป็นรูปวัวธนูอิทธิฤทธิแก้สิ่งอาถรรพณ์ได้108 ใต้ฐานอุดด้วยครั่งพุทรา(ครั่งที่ใช้นั้นต้องป็นครั่งที่เกาะบนกิ่งพุทราที่ชี้ไปทางทิศตะวันออกเท่านั้น)
หลวงปู่แป๋วท่านได้สร้างวัวธนูมหากาฬตามตำราโบราณบ้านบางระจัน ไม่ต้องเลี้ยงเหมือนวัวธนูทั่วไปไม่มีโทษผู้เลี้ยงแล้ว การสร้างวัวธนูมหากาฬที่ทรงพุทธคุณหลวงพ่อท่านได้ใช้มวลสารที่เสกโดยพระสายกรรมฐานเนื่องจากมีพลังเมตตาสูง ซึ่งพลังเมตตานี้จะลดความเกรี้ยวกราดดุร้ายของวัวธนูลงได้
สืบพระเวทย์บ้านบางระจัน กุมารบางระจัน รุ่นแรก (หลวงปู่แป๋ว) วัดดาวเรือง ท่านสร้างไว้ให้เป็น “กุมารเหนือกุมาร” อุดผงพรายกุมารหลวงปู่ทิมวัดระหารไร่ ตั้งใจให้เป็นของคู่แผ่นดิน หลวงปู่ชวนเทพเจ้าแห่งโพธิ์ทอง หลานแท้ๆและสืบพุทธาคมหลวงพ่อแช่มวัดตาก้อง เอ่ยปากชมเปาะ สวยงามครบเครื่อง ถูกต้องตามโบราณ ขนาดเสกแม่ชีแม่ขาวในพระอุโบสถเห็นเป็นตัวเป็นตน เสร็จพิธีหลวงพ่อเอิบ ศิษย์พุทธาคมหลวงปู่ผินะวัดสนมลาว ปรมาจารย์กุมารขี่ชะมดอันลือลั่นขอบูชากุมารขี่วัวธนูไปเฝ้ากุฏิ และขอบูชาเศียรครูที่งดงามด้วยพุทธศิลป์ไปสองเศียร
การสร้างกุมารตั้งแต่สมัยโบราณมีหลายประเภท ในปัจจุบันเป็นกุมารที่ใช้ในเรื่องการค้าขายเป็นส่วนมาก แต่การสร้างกุมารที่มีตัวมีตนใช้รบทัพจับศึกแบบการรบสมัยโบราณนั้นหาผู้สร้างได้ยากยิ่งเนื่องจากผู้เลี้ยงต้องมีวิชาอาคมสูงมีพลังจิตเข้มขลังมาก ใช้ในการสู้รบ ใช้ไปฆ่าศัตรูหรือที่เรียกกันว่า กุมารเพชรมั่น กุมารเพชรคง กุมารเพชรกลับ เป็นกุมารที่โหดร้าย อำมหิต เป็น“กุมารเหนือกุมาร” ซึ่งในปัจจุบันแทบจะไม่มีให้เห็นนอกจากผู้เรียนไสยเวทย์มนต์ดำแถบชายแดนเขมร ปัจจุบันการสร้างกุมารเป็นเพียงการใช้มวลสารอาถรรพ์มาทำเป็นตุ๊กตาดินปั้นแล้วเสกด้วยการตั้งธาตุหนุนธาตุให้เกิดอาการ 32 มีอานุภาพด้านเมตตามหานิยม ซึ่งนิยมทำในปัจจุบัน กุมารนักรบตามตำรับบ้านบางระจันตามตำราโบราณนั้น มีวิธีการสร้างและทรงฤทธิ์เฉกเช่น “กุมารเหนือกุมาร” ที่ขุนแผนใช้รณรงค์สงคราม หลวงปู่แป๋ว วัดดาวเรือง พื้นเพท่านเป็นลูกหลานบ้านบางระจันโดยกำเนิดท่านจึงมีดำริในการจัดสร้าง”กุมารเหนือกุมาร”ที่มีตัวมีตนขึ้นเพื่อให้ลูกศิษย์ใกล้ชิดได้ไว้ใช้ โดยเน้นในด้านเมตตา เกื้อกูลเป็นหลัก โดยการจัดสร้างจะใช้ชนวนอาถรรพ์มากมายเช่น ดินเจ็ดป่าช้า ผงเก้าโกศหลวงพ่อชื่นวัดตาอี และหลวงพ่อกอยวัดเขาดินใต้ เหล็กยอดฉัตร เหล็กสังฆวานรจากยอดฉัตรพระพุทธบาทและบรมธาตุเจดีย์ ดินเจ็ดทุ่ง เจ็ดท่าน้ำ ดินใจกลางพระนครทั้งเก้า ผงตายวันเสาร์เผาวันอังคาร ผงอิทธิเจ ผงเสน่ห์จันทร์ขาวเสน่ห์จันแดง เถ้ากระดูกอาถรรพ์ต่างๆ และที่สำคัญที่สุดคือผสมผงพรายกุมารหลวงปู่ทิมวัดละหารไร่และชนวนมวลสารจากการสร้างเหรียญนักรบเมืองสิงห์ “รุ่นเสือดำ จงอางศึก” รุ่นแรกที่สร้างขึ้นโดย หลวงปู่พระครูอินทคณานุสิชชณ์ (หลวงปู่เจ๊ก) วัดระนาม สิงห์บุรี พระเกจิอาวุโส เรืองวิทยาคมแห่งสิงห์บุรีในอดีตและชนวนรูปหล่อหลวงปู่โต๊ะ วัดกำแพง พระคณาจารย์อาวุโสที่เรืองนามด้านนิรันตรายที่มรณภาพไปเกือบศตวรรษฯลฯ มาเป็นมวลสารผสมชนวนในการหล่อขึ้นรูปกุมารโลหะ 
ในส่วนของวัวธนูมหากาฬ (วัวธนูทองแดง) ที่นำมาประกอบเป็นกุมารขี่วัวนั้นเป็นการสร้างวัวธนูมหากาฬ ในตำราโบราณ กล่าวไว้ว่าเป็นวิชาป้องกันตัว และใช้ปกป้องบ้านเมืองของนักรบสมัยก่อน หรือแม้กระทั่งการใช้วัวธนูมหากาฬนี้ไปฆ่าศัตรู วิชาเหล่านี้เป็นการทำหุ่นพยนต์รูปแบบหนึ่ง หุ่นพยนต์สามารถทำได้ทั้งรูปคนและสัตว์ ที่นิยมมีทั้งวัวธนูและควายธนู สามารถสร้างได้หลายวิธี เช่น สานจากไม้ไผ่ ปั้นด้วยดินผสมมวลสาร ปั้นจากขี้ผึ้ง ไปจนถึงหล่อขึ้นด้วยโลหะอาถรรพ์ เช่น ตะปูโลงศพเจ็ดป่าช้า ,เหล็กขนันผีพราย ,เหล็กยอดเจดีย์ เหล็กสังฆวานร เป็นต้น เอามาหลอมรวมกันหล่อเป็นรูปควายบ้าง วัวบ้าง บางสำนักใช้โครงเป็นไม้ไผ่แล้วพอกด้วยครั่งที่ได้จากต้นพุทรา เมื่อทำสำเร็จแล้วต้องปลุกเสกตามพิธีกรรม แล้วเลี้ยงไว้ให้ดี หาหญ้าและน้ำเลี้ยงเสมอ สามารถใช้ให้เฝ้าบ้านหรือไร่นา ใช้งานได้ตามความประสงค์ ทั้งป้องกันภูตผีและโจรผู้ร้าย
การทำธนูมือหรือการลงวิชายันต์ธนูที่ตัววัวเพื่อให้อานุภาพในการต่อสู้ศัตรูเป็นไปอย่างเข้มขลังได้ใช้ตามตำรับหลวงพ่อกวย วัดโฆษิตตารามที่ท่านสักฝากวิชาเอาไว้ที่มือหลวงปู่แป๋วผู้เป็นศิษย์ ได้นำมาประยุกต์ใช้ในการสร้างวัวธนูมหากาฬ แต่จะแรงมากก็คือการปราบปรามของอัปมงคลที่บุกรุก และยังใช้ทำน้ำมนต์ประพรมสิ่งของขายดีต่างๆ วัวธนูมหากาฬ นี้สร้างจากเหล็กนพสูรย์ยอดฉัตรที่ได้ครั้งบูรณปฏิสังขรณ์พระบรมธาตุเจดีย์ และยอดพระพุทธบาท สายฟ้าปัก กลางปราสาท ตามตำราโบราณบ้านบางระจันกล่าวว่า ทรงฤทธิ์ เทพประทานจากฟ้า เป็น“วัวธนูอาถรรพณ์” หรือเรียกว่า “วัวธนูแก้วสารพัดนึก” เบื้องบนมอบให้ ใช้ไล่ ต่อสู้ ป้องกันศัตรู คุ้มครองบ้านเรือน ค้ำคูณตน ให้ผลทางเพิ่มความ เจริญรุ่งเรืองในลาภผล หรือเรียกว่า ครอบจักรวาลก็ได้ 
วัตถุอาถรรพณ์ที่นำมาสร้าง อาทิเช่น เนื้อชนวนโลหะอาถรรพณ์และชนวนมวลสารทั่วประเทศที่นำมาสร้างวัตถุมงคลรุ่นคู่แผ่นดิน(เคยได้กล่าวไว้ในประวัติการสร้างวัตถุมงคลรุ่นคู่แผ่นดิน) ทองแดงเถื่อน,เหล็กยอดเจดีย์ของวัดเขมรโบราณ,ดีบุก,กระสุนปืนด้าน,ดาบ,หอก,ปืน,กริชสมัยโบราณ,ทองขวานฟ้าเหล็กขนันผี,เงินปากผี และแผ่นยันต์ตามตำราอีกมากมาย ชนวนขวานฟ้า หลวงปู่สมหมาย อนาลโย ศิษย์สายหลวงปู่มั่นที่นำแผ่นจารครูบาอาจารย์๘๐รูปพระกริ่ง๘๐รุ่นกำไรสำฤทธิ์โบราณจำนวน๒เส้น(อายุไม่ต่ำกว่า๗๐๐ปี)ส้น(อายุไม่ต่ำกว่า๗๐๐ปี) ตะกั่วขอมโบราณที่ได้รับจากหลวงปู่กาหลงฐานพระพุทธรูปสมัยสุโขทัยวัตถุมงคลรุ่นต่างๆของครูบาอาจารย์ชนวนเหรียญขวานฟ้าหลวงปู่หลุย,หลวงปู่ชอบหลวงปู่ศรีจันทร์หลวงปู่เหรียญหลวงปู่ท่อนชนวนปรกเศรษฐีวัดเจดีย์หลวงเนื้อขวานฟ้า(หลวงตามหาบัวเสก)รูปหล่อเมตตาบารมี หลวงตามหาบัวและเหรียญตัดชิดขวานฟ้า+รูปหล่อ๘รอบขวานฟ้า และชิ้นส่วนที่เหลือของหลวงปู่พวง และยังมีมวลสารมงคลอีกมาก ปรอกกระสุนปืน ที่ครูบาอาจารย์ปลุกเสกให้จำนวน ๑๐๘ ครูบาอาจารย์(เริ่มเสกมาตั้งแต่ปี ๔๕ถึงปัจจุบัน ปรอกกระสุนปืนที่หลวงปู่หลอด ปโมทิโต ผู้ที่ได้รับการขนานนามว่า “อรหันต์กลางกรุง”เสกให้ ปี๔๗ ปรอกกระสุนปืนที่หลวงปู่โส กัสสโปเสกไตรมาสให้เมื่อปี๔๖เหตุผลที่ใช้ปรอกกระสุนปืน เพราะหลวงปู่หลอดท่านเคยกล่าวว่า "ใช้ปรอกกระสุนปืนสร้างพระนั้นดีมันเป็นเคล็ดแม่ไม่ฆ่าลูก ทำพระไว้แขวน ยิ่งบ่ออก" ดังนั้นจึงเป็นเคล็ดให้การสร้างวัวธนูไม่กลับไปทำร้ายเจ้าของนั่นเอง เมื่อนำโลหะทั้งหมดนี้มาทำพิธีหล่อหลอมรวมกันเป็นแผ่นยันต์ที่ลงอักขระเลขยันต์มาเป็นรูปวัวธนูอิทธิฤทธิแก้สิ่งอาถรรพณ์ได้108 ใต้ฐานอุดด้วยครั่งพุทรา(ครั่งที่ใช้นั้นต้องป็นครั่งที่เกาะบนกิ่งพุทราที่ชี้ไปทางทิศตะวันออกเท่านั้น)
หลวงปู่แป๋วท่านได้สร้างวัวธนูมหากาฬตามตำราโบราณบ้านบางระจัน ไม่ต้องเลี้ยงเหมือนวัวธนูทั่วไปไม่มีโทษผู้เลี้ยงแล้ว การสร้างวัวธนูมหากาฬที่ทรงพุทธคุณหลวงพ่อท่านได้ใช้มวลสารที่เสกโดยพระสายกรรมฐานเนื่องจากมีพลังเมตตาสูง ซึ่งพลังเมตตานี้จะลดความเกรี้ยวกราดดุร้ายของวัวธนูลงได้
พิธีกรรมปลุกเสกวัวธนูมหากาฬเมื่อท่านกำหนดฤกษ์งามยามดี แล้วตั้งเครื่องบูชาครูตามฤกษ์ที่กำหนดไว้ เป็นสิ่งสำคัญ ต้องทำตามฤกษ์และพิธีอย่างเคร่งครัดที่สุด เพื่อเพิ่มความขลังความศักดิ์สิทธิ์ให้แก่วัวธนู ปลุกเสกจนกว่านิมิตเห็นวัวธนูมีชีวิตขึ้นมาหันหัวไปซ้ายที ขวาที วิ่งสำแดงเดชให้เห็นว่ามีตัวตนเหมือนมีชีวิต จากนั้นปลุกเสกตั้งธาตุ หนุนธาตุ ใส่อาการ32 และท่านได้บรรจุพลังอย่างเต็มที่ เรียกสูตรเรียกนาม ตามวิชาที่ท่านได้ร่ำรียนมาจากครูบาอาจารย์ของท่าน มีพุทธคุณ ช่วยขจัดและขับไล่วิญญาณชั่วร้าย (ไม่รวมถึงวิญญาณ ของกุมารทอง ผีปู่ ย่า ตา ยาย ผีเรือนและสิ่งศักดิ์สิทธิ์อื่นๆ) สถานที่อยู่อาศัย,สำนักงาน,ร้านค้า,โรงงาน, หรือสิ่งปลูกสร้างใด ที่ตั้งอยู่ทางสามแพร่ง(ทางผีผ่าน) ทำมาค้าขายไม่คล่อง จะนำวัตถุมงคลใดๆไปบูชาแล้วไม่เกิดผล สืบเนื่องมาจากสถานที่ ที่นั้นยังมีวิญญาณชั่วร้ายแอบแฝงอยู่ คอยกลั่นแกล้งตามล้างตามผลาญ วัวธนูนี้จะขับไล่สิ่งอัปมงคลและวิญญาณชั่วร้ายนั้นออกไปก่อนจนไม่เหลือ จึงนำสิ่งที่เป็นมงคลที่มีพุทธคุณในเรื่องเมตตาค้าขายไปบูชาจึงเกิดผล เพราะว่าวัตถุมงคลชนิดอื่นไม่มีหน้าที่ขจัดและปราบภูติผีปีศาจและวิญญาณสิ่งชั่วร้ายได้ดีเท่าวัวธนู เพราะวัวธนูมีอนุภาพมาก วัวธนูมีนิสัยมุทะลุดุดัน ปราดเปรียวมุ่งมั่นเด็ดเดี่ยวสามารถป้องกันและแก้คุณไสย มนต์ดำ และภูติผีปีศาจ วิญญาณชั่วร้าย ลมเพลมพัด ใครคิดร้ายจะสะท้อนกลับไปหาผู้นั้นเอง สามารถเฝ้าบ้าน ร้านค้า โรงงาน พร้อมป้องกันโจรผู้ร้ายไม่ให้เข้ามาบริเวณดังกล่าวได้ หากมีพวกภูติผีปีศาจเข้ามารบกวน วัวธนูก็จะออกขับไล่ทำให้ภูติผีปีศาจไม่กล้าเข้าใกล้เคหะสถานอีกด้วย วัวธนูจะออกไปป้องกันให้มนต์ดำสะท้อนกลับไปหาเจ้าของที่ปล่อยมนต์ดำออกมา สามารถบูชาวัวธนูไว้ในรถจะคุ้มครองกันภัยต่างๆได้เป็นอย่างดี ซึ่งถนนหนทางเกือบจะทุกที่ทุกแห่งจะเต็มไปด้วยพวกวิญญาณผีตายโหงก็ยังเร่ร่อนวนเวียน คอยวิญาณใหม่ที่จะมาแทนที่ ประสบอุบัติเหตุเพิ่มขึ้นบ่อยครั้ง ถ้าหากเราตั้งบูชาวัวธนูนี้ไว้หน้ารถแล้ว บรรดาภูติผีปีศาจวิญญาณชั่วร้ายต่างๆจะไม่เข้ามากล้ำกลายทำอันตรายมาดลจิตดลใจให้ผู้ขับขี่เกิดความประมาทได้ หรือแม้แต่ในโรงพยาบาล โรงแรม และสถานที่ต่างๆที่มีวิญญาณเร่ร่อนพเนจร บรรดาภูติผีปีศาจเหล่านั้นจะไม่สามารถทำอันตรายหรือปรากฏให้เห็นแก่ผู้ที่มีวัวธนูไว้บูชา ถ้าครอบครัวใดไม่มีความสุข ต้องมีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกันตลอด จะมีคนในบ้านมีอันเป็นไปในทางที่ไม่ดีไปทีละคน จะมีคนป่วยไม่สบายหาสาเหตุการป่วยไม่เจอ ก็จะแก้อาถรรพ์ที่เกิดขึ้นได้สำหรับผู้ที่ดวงตกดวงไม่ดีเรียกว่าพระศุกร์เข้าพระเสาร์แทรกอาภัพอับโชคทำอะไรก็ไม่สำเร็จมีแต่อุปสรรคมาขัดขวางทำดีไม่ได้ดี ต้องนำวัวธนูไปเลี้ยงบูชาแก้ปัญหาได้ชงัดนักสำเร็จสมประสงค์หมดปัญหาจะอยู่ดีกินดี กิจการค้าเจริญรุ่งเรือง ครอบครัวอยู่เย็นเป็นสุขที่เห็นผลมามากต่อมากแล้ว เพราะว่าการดำรงชีวิตในปัจจุบันนี้เต็มไปด้วยการแก่งแย่งกันทำมาหากิน แย่งชิงอำนาจกัน มีศัตรูคอยอาฆาตรกลั่นแกล้งต่างๆ นำให้เราพบปัญหาอุปสรรคต่างๆ วัวธนูสามารถปกป้องผู้ที่เป็นเจ้าของได้เป็นอย่างดี การปลุกเสกวัวธนูมหากาฬนี้ถ้าผู้บุกรุกหรือผู้แอบแฝงเป็นภูติผีมันจะขับไล่จนกระทั่งภูติผีปีศาจหรือวิญญาณชั่วร้ายเหล่านั้นหมดสภาพไม่สามารถใช้ให้ไปทำอะไรได้อีก
การปลุกเสกตามพิธีศักดิ์สิทธิ์มณฑลพิธีประกอบต้องล้อมรอบด้วยราชวัตรปลุกเสกกลางอุโบสถใช้ฤกษ์วันเสาร์เกือบพลบค่ำเป็นฤกษ์ในการเสก ใช้ผ้าขาวสำหรับคาดเพดานยันต์มงกุฏพระพุทธเจ้าสำหรับคาดเพดาน ปักไม้รักเป็นราชวัตรฉัตรพิธีสำหรับปักเป็นเสา ๔ อัน ( สี่ทิศ ) สายสิญจน์ยาวพอที่จะวนมณฑลพิธีได้ ๗ รอบ ผ้ายันตร์ตรีนิสิงเหสำหรับติด ๘ ผืน ( แปดทิศ )ด้านหลังเป็นยันต์อิติปิโสประจำแต่ละทิศ คือยันต์ประจำทิศใดก็ให้ติดยันต์นั้นประจำทิศทั้งแปด แต่ละทิศคือ..
๑. ทิศบูรพา ให้ติดกระทู้ ๗ แบก ( อะระชาคะตะระสา )
๒. ทิศอาคเนย์ ให้ติดฝนแสนห่า ( ติหังจะโตโรถินัง )
๓. ทิศทักษิณ ให้ติดนารายณ์กลืนสมุทร ( ปิสัมวะโลปุสัตพุท )
๔. ทิศหรดี ให้ติดนารายณ์พลิกแผ่นดิน ( โสมานะกะริถาโต )
๕. ทิศประจิม ให้ติดตวาดหิมพานต์ ( ภะสัมสัมวิสะเทภะ )
๖. ทิศพายัพ ให้ติดนารายณ์กลืนจักร ( คะพุทปันทูธัมวะคะ )
๗. ทิศอุดรให้ติดนารยณ์ขว้างจักร ( วาโธอะมะมะวา )
๘. ทิศอีสาน ให้ติดนารายณ์แปลงรูป ( อะวิสสุนุตสานุ)
เมื่อถึงฤกษ์พราหมณ์ในพิธีบรวงสรวงวีรชนบ้านบางระจัน ขออำนาจปกปักรักษาสืบพิธีนี้ให้ศักดิ์สิทธิ์ โดยหลวงปู่แป๋ว เจ้าพิธี ได้นั่งเป็นประธานหน้าพระประธานในอุโบสถบริกรรมพระเวทย์การปลุกเสกตั้งธาตุหนุนธาตุ และอาราธนาพระคณาจารย์ที่เชี่ยวชาญในกรรมฐานนิพพานสูตร ในการสร้างเสกกุมารทองมาประจำทั้งสี่ทิศเพื่อกำกับพิธีมณฑลสถานและให้ได้กุมารที่เหนือกุมารตามสายพระเวทย์บ้านบางระจัน ได้แก่ 1).หลวงปู่ชวน กตปุญโญ พระเถระชั้นผู้ใหญ่ของเมืองอ่างทอง ผู้สืบสานวิทยาคมจากหลวงพ่อแช่ม วัดตาก้อง
2).หลวงพ่อบุญธรรม วัดบางจิก สิงห์บุรี ศิษย์ร่วมสำนัก หลวงพ่อเพี้ยน วัดเกริ่นกฐิน
3). หลวงพ่อเอิบ ฐิตธรรมโม วัดซุ้มกระต่าย จ.ชัยนาท ศิษย์พุทธาคมหลวงพ่อเดิมวัดหนองโพ และหลวงปู่ผินะ วัดสนมลาว
4).หลวงพ่อพระครูปืน วัดลาดชะโด ผู้สืบสายวิทยาคมตำรับสายพระญาติ จ.พระนครศรีอยุธยา
กุมารบางระจัน รุ่นแรก สร้างสี่แบบเป็นกุมารบางระจันพิมพ์เล็กเนื้อเหล็กสังฆวานร และเนื้อทองนพคุณ และกุมารมหาปราบนกคุ้มกันภัย และที่พิเศษคือกุมารบางระจันขี่วัวธนูมหากาฬหรือวัวธนูทองแดงที่มีอานุภาพเหนือวัวธนูทั้งปวง ดังคำกล่าวหลวงปู่“ อานุภาพครอบจักรวาล วันหน้าจะหายากยิ่ง กูสร้างไว้ให้พวกมึง”
🔻สอบถามเพิ่มเติม
🔺คเณศรสมุทรปราการ
☎️081-425-6328
☎️095-365-0864
🔺คเณศร พัทยา ชลบุรี
☎️084-657-9117
🆔ไอดีไลน์ kanesorn
กุมารทองบางระจันรุ่นแรก วัดดาวเรือง จ.สิงห์บุรี บูชาได้แล้ว

กุมารทองบางระจันรุ่นแรก วัดดาวเรือง จ.สิงห์บุรี บูชาได้แล้ว

กุมารทองบางระจันรุ่นแรก วัดดาวเรือง จ.สิงห์บุรี บูชาได้แล้ว

กุมารทองบางระจันรุ่นแรก วัดดาวเรือง จ.สิงห์บุรี บูชาได้แล้ว

กุมารทองบางระจันรุ่นแรก วัดดาวเรือง จ.สิงห์บุรี บูชาได้แล้ว

กุมารทองบางระจันรุ่นแรก วัดดาวเรือง จ.สิงห์บุรี บูชาได้แล้ว

กุมารทองบางระจันรุ่นแรก วัดดาวเรือง จ.สิงห์บุรี บูชาได้แล้ว

กุมารทองบางระจันรุ่นแรก วัดดาวเรือง จ.สิงห์บุรี บูชาได้แล้ว

กุมารทองบางระจันรุ่นแรก วัดดาวเรือง จ.สิงห์บุรี บูชาได้แล้ว

กุมารทองบางระจันรุ่นแรก วัดดาวเรือง จ.สิงห์บุรี บูชาได้แล้ว

กุมารทองบางระจันรุ่นแรก วัดดาวเรือง จ.สิงห์บุรี บูชาได้แล้ว

กุมารทองบางระจันรุ่นแรก วัดดาวเรือง จ.สิงห์บุรี บูชาได้แล้ว

กุมารทองบางระจันรุ่นแรก วัดดาวเรือง จ.สิงห์บุรี บูชาได้แล้ว

กุมารทองบางระจันรุ่นแรก วัดดาวเรือง จ.สิงห์บุรี บูชาได้แล้ว

กุมารทองบางระจันรุ่นแรก วัดดาวเรือง จ.สิงห์บุรี บูชาได้แล้ว

กุมารทองบางระจันรุ่นแรก วัดดาวเรือง จ.สิงห์บุรี บูชาได้แล้ว

กุมารทองบางระจันรุ่นแรก วัดดาวเรือง จ.สิงห์บุรี บูชาได้แล้ว

กุมารทองบางระจันรุ่นแรก วัดดาวเรือง จ.สิงห์บุรี บูชาได้แล้ว

กุมารทองบางระจันรุ่นแรก วัดดาวเรือง จ.สิงห์บุรี บูชาได้แล้ว

กุมารทองบางระจันรุ่นแรก วัดดาวเรือง จ.สิงห์บุรี บูชาได้แล้ว

ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงข้อมูล, ราคา และของสมนาคุณ โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้าและ ข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นจากการพิมพ์
ภาพที่ใช้ประกอบในเว็บไซด์นี้อาจปรับแสงเพื่อความสวยงาม ของจริงอาจแตกต่างกันบ้าง